ลอนดอน

ชื่อ ลอนดอน นักประวัติศาสตร์คาดว่าน่าจะมาจากชื่อกรุงลอนดอนในสมัยโรมันว่า ลอนดิเนียม (ละติน: Londinium) ซึ่งเป็นภาษาละติน และเพี้ยนมาเป็นชื่อ "ลอนดอน" ในภายหลัง




ถึงแม้ว่าชาวโรมันจะพิชิตอังกฤษได้ก็ตาม ลอนดิเนียมแห่งนี้อยู่เพียงสิบเจ็ดปีเท่านั้น ในปี ค.ศ. 61 ชาวเผ่าไอซินี นำโดยราชินีโบดิก้า บุกเข้ายึดลอนดึเนียม เผาทั้งเมือง และเข่นฆ่าชาวโรมันอย่างเหี้ยมโหด[10] แต่ในเวลาถัดมา ชาวโรมันสามารถยึดเมืองกลับคืนมาได้ และชนะการรบกับราชินีโบดิก้า ในราวศตวรรษที่ 2 ลอนดิเนียมรุ่งเรืองถึงขีดสุด และลอนดอนโรมันมีประชากรประมาณ 60,000 คน



ลอนดอนประสบอัคคีภัยครั้งใหญ่ในปี พ.ศ. 2209 (ค.ศ. 1666) ส่งผลให้ผู้คนเชื่อว่าเลข 666 เป็นเลขแห่งความโชคร้าย การสร้างเมืองใหม่ใช้เวลาถึง 10 ปีด้วยกัน แต่ลอนดอนยังคงเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลกถึงคริสต์ศตวรรษที่ 19



[แก้] ภูมิอากาศ

[ซ่อน]ภูมิอากาศโดยเฉลี่ยสำหรับลอนดอน

เดือน ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. ม.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ปี

อุณหภูมิสูงสุดโดยเฉลี่ย °C (°F) 7.9 (46) 8.2 (47) 10.9 (52) 13.3 (56) 17.2 (63) 20.2 (68) 22.8 (73) 22.6 (73) 19.3 (67) 15.2 (59) 10.9 (52) 8.8 (48) 14.8 (59)

อุณหภูมิต่ำสุดโดยเฉลี่ย °C (°F) 2.4 (36) 2.2 (36) 3.8 (39) 5.2 (41) 8.0 (46) 11.1 (52) 13.6 (56) 13.3 (56) 10.9 (52) 8.0 (46) 4.8 (41) 3.3 (38) 7.2 (45)

หยาดน้ำฟ้า มม.(นิ้ว) 51.9 (2) 34.0 (1.3) 42.0 (1.7) 45.2 (1.8) 47.2 (1.9) 53.0 (2.1) 38.3 (1.5) 47.3 (1.9) 56.9 (2.2) 61.5 (2.4) 52.3 (2.1) 54.0 (2.1) 583.6 (23)

แหล่ง: Met Office[11] 14 สิงหาคม พ.ศ. 2550



[แก้] เศรษฐกิจ

ลอนดอนถูกจัดอับดับโดย Mastercard Worldwide (มาสเตอร์การ์ด เวิรลด์ไวด์) ว่าเป็นศูนย์กลางการพาณิชย์ อันดับหนึ่งของโลก